ถ้าให้จัดลำดับงานบ้านที่แสนน่าเบื่อ ต้องใช้แรง และเสียเวลามาก กว่าทำจะเสร็จแต่ละครั้ง การกวาดบ้านและถูบ้านมักจะเป็นคำตอบลำดับต้น ๆ ของใครหลายคน แต่ถ้าหากมี
เครื่องดูดฝุ่นถูพื้นได้ด้วย งานบ้านแสนน่าเบื่อนี้ จะจบลงได้ด้วยเวลาอันสั้น และสะดวกสบายขนาดไหน แต่ว่าราคาของเจ้าเครื่องดูดฝุ่นเพียงอย่างเดียว ก็เอาเรื่องอยู่ นี่ยังเพิ่มฟังก์ชั่นการถูพื้นเข้าไปด้วย ราคาจะสูงขึ้นขนาดไหน ดังนั้นก่อนตัดสินใจซื้ออาจจะต้องเทียบข้อดี-ข้อด้อย ความคุ้มค่าให้ดี ว่าจริง ๆ แล้ว เจ้าเครื่องนี้จำเป็นกับเรามากขนาดนั้นไหม อย่างเช่น
1. ตั้งเวลาทำความสะอาดได้ไหม : จะดีแค่ไหน ขณะที่ออกมาทำงาน ช่วงที่ไม่มีใครอยู่บ้าน หรือช่วงที่กำลังนอนหลับ เพียงกลับบ้านมา หรือตื่นนอน บ้านก็สะอาดเลย แต่การกำหนดเวลาทำความสะอาด ไม่ใช่ทุกเครื่องสามารถทำได้ ต้องดูให้ถี่ถ้วนก่อนตัดสินใจซื้อ
2. ฟังก์ชั่นการทำความสะอาดหลากหลายไหม : อย่างตัว
เครื่องดูดฝุ่นถูพื้น สามารถทำความสะอาดครบจบในตัวเดียว ประหยัดเวลา และยังได้ความสะอาดโดยไม่ต้องออกแรงเลย นอกจากนี้ในบางจุดที่ทำความสะอาดยาก เช่นใต้ตู้ ใต้เตียง ก็สามารถเข้าไปทำความสะอาดได้อย่างหมดจด และยังตั้งค่าให้ทำความสะอาดเฉพาะบริเวณได้อีกด้วย
3. เสียงเงียบไหม : หากเป็นรุ่นเก่า ๆ เมื่อเปิดใช้งานจะมีเสียงดัง แต่ในปัจจุบันนี้ได้พัฒนาให้ทำงานเงียบมากขึ้น ดังนั้นต้องเลือกรุ่นที่เปิดใช้เวลาไหนก็ได้ ไม่มีเสียงดังรบกวน แม้ในขณะนอนหลับ
4. ราคาสูงเกินความจำเป็นไหม : อย่างที่ทราบกันว่าราคายังคงถือว่าสูงอยู่ ยิ่งเป็นแบรนด์ดัง ฟังก์ชั่นการทำงานซับซ้อน เทคโนโลยีที่นำมาใช้สามารถทำความสะอาดได้อย่างมีประสิทธิภาพ เพราะหากซื้อตัวที่ราคาไม่สูงก็อาจไม่ได้ฟังก์ชั่นการทำงานที่ตรงตามความต้องการของผู้ใช้
5. ขนาดถังน้ำก็มีความสำคัญ : บางรุ่นมีถังน้ำที่ใส่มาในตัวเครื่องค่อนข้างเล็ก สำหรับบ้านที่มีพื้นที่ใหญ่ๆอาจไม่เพียงพอ จำเป็นต้องเติมน้ำ 2 ครั้ง ถึงจะทำความสะอาดได้ทั่วถึง
6. การทำงานของเซ็นเซอร์เสถียรไหม : หัวใจสำคัญของการทำงานของตัวเครื่อง ซึ่งบางรุ่นระบบเซ็นเซอร์ไม่ดี เวลาเปิดใช้งานตัวเครื่อง อาจไปชนกับเฟอร์นิเจอร์ หรือชนกำแพง แต่รุ่นใหม่ๆเซ็นเซอร์จะทำงานได้มีประสิทธิภาพที่ดีกว่า ต้องเลือกให้ดี
หากถามว่า
เครื่องดูดฝุ่นถูพื้นมีความจำเป็นขนาดนั้นไหม เราคงต้องมาสำรวจตัวเองดูว่า การใช้ชีวิต หรือไลฟ์สไตล์ของเราว่าเป็นอย่างไร หรือเราเหมาะกับการกวาดถูแบบปกติที่ทำอยู่ จริงอยู่ที่ความสะดวกสบายคือสิ่งที่จะได้รับแน่นอน แต่ต้องแลกกับราคาที่ต้องจ่าย ซึ่งปัจจัยเหล่านี้ผู้ใช้เองต้องเป็นคนตอบคำถามเอง ดังนั้นลองพิจารณาข้อดี-ข้อด้อย แล้วเปรียบเทียบกันดูว่า ถ้าหากซื้อรุ่นที่ราคาไม่สูงมาก จะเพียงพอต่อความต้องการเราไหม แต่ถ้าไม่พอ ลองเพิ่มรุ่นให้ใหม่ขึ้น ฟังก์ชั่นการทำงานเพิ่มขึ้น กับราคาที่เพิ่มขึ้น แล้วคำนวณดูถึงความจำเป็นที่ต้องใช้ก่อนตัดสินใจซื้อ